ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว
เรียน ท่านลูกค้าที่ใช้บริการ
บริษัท อาซาว่า จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และพยายามมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามกฎหมายไทย
บริษัท อาซาว่า จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และพยายามมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามกฎหมายไทย
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวม โดยที่ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงข้อมูลที่ท่านมอบให้แก่บริษัทเกี่ยวกับตัวท่านเอง หรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน (“ท่าน”) ซึ่งรวมถึงพนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น หรือผู้รับประโยชน์จากการทําธุรกรรมในทอดสุดท้าย (Ultimate Beneficial Owner) ของท่านในกรณีที่ท่านเป็นนิติบุคคล และข้อมูลที่บริษัทรับทราบจากการที่ท่านเป็นลูกค้าของบริษัท และข้อมูลทางการตลาดที่ท่านประสงค์ที่จะให้บริษัทส่งให้แก่ท่าน
บริษัท อาซาว่า จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ของบริษัทในการเก็บและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นและอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย และ บริษัทยืนยันว่าเราได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
ข้อมูลส่วนบุคคลแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่
ข้อมูลส่วนบุคคล (ทั่วไป) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีชีวิตอยู่ที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ email address หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทนี้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญาพฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
2. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากไหน
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากท่านโดยตรง
บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงผ่านช่องทางปกติ และช่องทางออนไลน์จากแหล่งที่หลากหลายดังต่อไปนี้ : แต่ไม่จำกัดเพียง
• ท่านติดต่อสอบถามหรือขอรับข้อมูลจากบริษัท
• เมื่อท่านสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท
• ท่านได้เข้าทำสัญญา หรือข้อตกลงใดๆ กับบริษัท
• ท่านลงทะเบียนโดยการสร้างบัญชีผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน หรือการใช้งานผ่านบัญชีโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ
• ท่านได้ทำแบบสอบถามหรือติดต่อกับบริษัททางโทรศัพท์ อีเมล หรือผ่านพนักงานของบริษัท
• แบบสำรวจลูกค้า
• เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับบริษัท
• เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงเปิดเผยข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดีย (social media) ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเลือกให้ปรากฎต่อสาธารณะเท่านั้น
• ท่านเข้าเว็บไซต์ของบริษัท โดยทางบริษัทจะเก็บข้อมูลที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ บริษัทสามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน เมื่อท่านใช้บริการ และ/หรือเข้าสู่แพลตฟอร์ม cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งานอินเทอร์เน็ตของท่านหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่อง Cookies ได้จาก https://www.asavagroup.com
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมาจากหน่วยงาน/บุคคลภายนอก (Third Party)
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากหน่วยงาน/บุคคลภายนอกที่เป็นเครือข่ายกับบริษัทในการดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกนำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือสั่งไว้ และบริษัทได้กำหนดให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
3. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของบริษัท โดยสามารถจำแนกประเภทได้ดังนี้
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปี เกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย ชื่อผู้ใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Username) เป็นต้น
(2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล ตำแหน่งที่อยู่ (Geolocation) ผู้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บัญชีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ LINE ID Facebook Instagram เป็นต้น
(3) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต เดบิต เป็นต้น
(4) ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่ที่ติดต่อกับบริษัท ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัท เป็นต้น
(6) ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะความชอบ ความสนใจส่วนบุคคล
(7) การบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด CCTV
(8) ข้อมูลการเข้าร่วมการประชุม อบรม สัมมนา กิจกรรม หรือโครงการอื่น ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น โดยอาจมีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และหรือเสียงระหว่างการประชุม อบรม สัมมนา หรือกิจกรรมดังกล่าว
(9) ข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อการดำเนินคดีหรือการบังคับคดี เช่น สถานภาพการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน เป็นต้น
(10) ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน
(11) ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาด
(12) ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของ บริษัท รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน Application ข้อมูลในการเข้าชมเว็บไซต์ (Browsing Information) เช่น ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลที่อยู่ IP (IP Address) เป็นต้น
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive personal data):
ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งรวมถึงข้อมูลของท่านเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
4. วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทเราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ขอบเขตของกฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเก็บรวบรวมข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็น ดังนี
• เพื่อประโยชน์ในการจัดหาหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การให้หรือรับบริการในรูปแบบต่าง ๆ
• เพื่อการทำธุรกรรมทางการเงิน และภาษี ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญาของบริษัทฯ
• การค้นคว้า หรือการวิจัย
• เพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม หรือบุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทน หรือมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
• เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพในการดำเนินงาน การให้บริการ และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ
• เพื่อการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน
• เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ
• เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าถึง การป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ และเพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ของบริเวณอาคาร ภายในอาคาร และพื้นที่ของบริษัทฯ
• เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและ ในอนาคต
บริษัทอาจใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของเราที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด
บริษัทอาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาดหรือให้บุคคลภายนอกที่บริษัทมีข้อตกลงด้วยดำเนินการ ในกรณีดังต่อไปนี้
• ในกรณีที่บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) กับท่าน บริษัทจะดำเนินการได้เฉพาะกรณีที่ท่านให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง และบริษัทได้มีการแจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลท่านเพื่อการทำการตลาดแบบตรงนั้นกับท่านแล้ว ทั้งนี้ ท่านสามารถยกเลิกการให้ความยินยอมกับบริษัทในเรื่องการทำการตลาดแบบตรงได้ตลอดเวลาโดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของบริษัท
• ในการทำการตลาดแบบตรงกับท่าน บริษัทใช้ข้อมูลของท่านในการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของท่าน
• ในกรณีการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัท เช่น กิจกรรมการเล่นเกม หรือกิจกรรมในช่องทาง Social Network ต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของบริษัทให้บุคคลทั่วไปทราบ บริษัทจะไม่นำข้อมูลของท่านไปประมวลผลเพื่อทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ยกเว้นท่านจะให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลไปทำการตลาดแบบตรงได้ โดยบริษัทจะแจ้งท่านถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลท่านเพื่อการทำการตลาดแบบตรง และท่านสามารถยกเลิกการให้ความยินยอมกับบริษัทในเรื่องการทำการตลาดแบบตรงได้ตลอดเวลาโดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของบริษัท
6. การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 บริษัทไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงาน/บุคคลภายนอก ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็น ที่ต้องเปิดเผยให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินงาน หรือเป็นหน่วยงานมีหน้าที่ตามกฎหมายในการร้องขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูล หน่วยงาน/บุคคลภายนอกเหล่านี้ได้แก่
• บริษัทในเครือ
• แพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์
• บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการตลาด
• หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• หน่วยงานที่บริษัทจ้างให้เก็บข้อมูล
6.2 บริษัทกำหนดให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือมีคำสั่งให้บุคคลภายนอกนั้นดำเนินการ บุคคลภายนอกจะไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้
6.3 เมื่อถูกร้องขอ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกาย เพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย การตั้งข้อหา การใช้สิทธิ์ปกป้องสิทธิทางกฎหมาย และการป้องกันกรณีฉ้อโกง เป็นต้น
7. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระบบงานสารสนเทศของบริษัท และจัดให้มีการรักษาความปลอดภัย ที่มีมาตรฐานเพื่อให้ระบบงานสารสนเทศของบริษัท และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความปลอดภัย โดยมีมาตรการดังนี้
• จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่หรือพนักงาน
• จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
• จัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อความปลอดภัยเมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลของบริษัทอีกต่อไป
• มีกระบวนการจัดการกับกรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีที่ต้องสงสัยและต้องแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
7.2 ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลา 10 ปี ภายหลังจากที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัท แล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของบริษัทในการดำเนินข้อพิพาททางสัญญาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นในระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่มีเหตุผลทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่า 10 ปีได้ หากบริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลของท่านแล้ว บริษัทจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ (เพื่อที่ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีความเชื่อมโยงถึงท่านอีกต่อไป)
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) ในการเก็บข้อมูลเมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์ บริษัท จะเก็บไว้ไม่เกิน 13 เดือน หรือตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
8. นโยบายเรื่องคุกกี้ (Cookies)
8.1 Cookies เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies):
บริษัทใช้ Cookies เพื่อพัฒนาการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies) ในการจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านเพื่อช่วยให้บริษัท สามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น Cookies ประเภทนี้ช่วยให้บริษัทจดจำอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้บริษัทสามารถจัดทำเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มสะดวกสบายและ เป็นประโยชน์ต่อท่านมากขึ้น ในการปิดใช้งาน Cookies นี้ ท่านสามารถตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณโดยดูวิธีการช่วยเหลือของเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน
8.2 Cookies เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic cookies):
บริษัทใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดยบุคคลภายนอกเพื่อเก็บข้อมูลว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทมีการใช้งานอย่างไร บริษัททำข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นข้อมูลนิรนามทั้งหมด (Anonymization) และส่งผ่านไปที่บุคคลภายนอกผู้ที่จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้หรือเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ให้กับบุคคลอื่นที่ประมวลผลข้อมูลให้ตามที่กฎหมายอนุญาต บุคคลภายนอกจะไม่รวมข้อมูลของท่านที่ได้ไปจากเว็บไซต์เรากับข้อมูลที่บุคคลภายนอกมีอยู่แล้ว ท่านสามารถเลือกปิดการใช้งาน Cookies ลักษณะนี้บนหน้าเว็บไซต์บริษัท
9. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัท และการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เท่านั้นหากท่านได้กด link ไปยังเว็บไซต์อื่น (แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นๆ แยกต่างหากจากของบริษัท
10. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทจะตรวจสอบประสิทธิภาพของนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำ ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวจะถูกประกาศหรือตีพิมพ์ไว้บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอื่นของบริษัท
11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้
1. ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw Consent) ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2. ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Right of Access) และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน
3. ท่านมีสิทธิให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ (Right to Rectification)
4. ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ (Right to Erasure)
5. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Restriction of Processing)
6. ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Data Portability)
7. ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Object)
8. ท่านมีสิทธิเรียกร้องให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีที่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลก่อให้เกิดความเสียหาย
ในการใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่อยู่ข้างล่างเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ และบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน บริษัทจะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านตามขอบเขตของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และในกรณีที่บริษัทปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทจะให้เหตุผลการปฏิเสธคำขอของท่านด้วย
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการพิสูจน์ตัวตนของท่าน และรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) โดยเป็นมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทอาจติดต่อท่านเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอของท่าน เพื่อที่บริษัทจะได้สามารถดำเนินการตอบกลับได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
บริษัทจะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี บริษัทอาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และจะแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ
12 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง โดยบริษัทจะตรวจสอบ และใช้มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยขององค์กรทั้งทางกายภาพ เชิงเทคนิค และเชิงบริหารที่ทันสมัยอยู่เสมอเมื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทได้วางนโยบาย และมาตรการควบคุมภายในเพื่อให้ท่านมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และถูกเข้าถึงโดยบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท โดยพนักงานของบริษัทนั้น ได้รับการอบรม และฝึกฝนให้จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย หากพนักงานไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับการอบรมฝึกฝนดังกล่าว พนักงานจะได้รับโทษทางวินัย
13. ช่องทางการติดต่อกับบริษัท
บริษัท อาซาว่า จำกัด
ที่อยู่ : 1, 1/1, 1/2 ซอยสุขุมวิท 45 (สุขเสมอ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
อีเมล : [email protected]
หมายเลขโทรศัพท์ : 026626526
รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
ที่อยู่ : 1, 1/1, 1/2 ซอยสุขุมวิท 45 (สุขเสมอ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
อีเมล : [email protected]
บริษัท อาซาว่า จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ของบริษัทในการเก็บและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นและอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย และ บริษัทยืนยันว่าเราได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
ข้อมูลส่วนบุคคลแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่
ข้อมูลส่วนบุคคล (ทั่วไป) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีชีวิตอยู่ที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ email address หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทนี้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญาพฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
2. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากไหน
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากท่านโดยตรง
บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงผ่านช่องทางปกติ และช่องทางออนไลน์จากแหล่งที่หลากหลายดังต่อไปนี้ : แต่ไม่จำกัดเพียง
• ท่านติดต่อสอบถามหรือขอรับข้อมูลจากบริษัท
• เมื่อท่านสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท
• ท่านได้เข้าทำสัญญา หรือข้อตกลงใดๆ กับบริษัท
• ท่านลงทะเบียนโดยการสร้างบัญชีผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน หรือการใช้งานผ่านบัญชีโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ
• ท่านได้ทำแบบสอบถามหรือติดต่อกับบริษัททางโทรศัพท์ อีเมล หรือผ่านพนักงานของบริษัท
• แบบสำรวจลูกค้า
• เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับบริษัท
• เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงเปิดเผยข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดีย (social media) ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเลือกให้ปรากฎต่อสาธารณะเท่านั้น
• ท่านเข้าเว็บไซต์ของบริษัท โดยทางบริษัทจะเก็บข้อมูลที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ บริษัทสามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน เมื่อท่านใช้บริการ และ/หรือเข้าสู่แพลตฟอร์ม cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งานอินเทอร์เน็ตของท่านหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่อง Cookies ได้จาก https://www.asavagroup.com
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมาจากหน่วยงาน/บุคคลภายนอก (Third Party)
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากหน่วยงาน/บุคคลภายนอกที่เป็นเครือข่ายกับบริษัทในการดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกนำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือสั่งไว้ และบริษัทได้กำหนดให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
3. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของบริษัท โดยสามารถจำแนกประเภทได้ดังนี้
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปี เกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย ชื่อผู้ใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Username) เป็นต้น
(2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล ตำแหน่งที่อยู่ (Geolocation) ผู้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บัญชีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ LINE ID Facebook Instagram เป็นต้น
(3) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต เดบิต เป็นต้น
(4) ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่ที่ติดต่อกับบริษัท ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัท เป็นต้น
(6) ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะความชอบ ความสนใจส่วนบุคคล
(7) การบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด CCTV
(8) ข้อมูลการเข้าร่วมการประชุม อบรม สัมมนา กิจกรรม หรือโครงการอื่น ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น โดยอาจมีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และหรือเสียงระหว่างการประชุม อบรม สัมมนา หรือกิจกรรมดังกล่าว
(9) ข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อการดำเนินคดีหรือการบังคับคดี เช่น สถานภาพการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน เป็นต้น
(10) ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน
(11) ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาด
(12) ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของ บริษัท รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน Application ข้อมูลในการเข้าชมเว็บไซต์ (Browsing Information) เช่น ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลที่อยู่ IP (IP Address) เป็นต้น
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive personal data):
ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งรวมถึงข้อมูลของท่านเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
4. วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทเราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ขอบเขตของกฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเก็บรวบรวมข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็น ดังนี
• เพื่อประโยชน์ในการจัดหาหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การให้หรือรับบริการในรูปแบบต่าง ๆ
• เพื่อการทำธุรกรรมทางการเงิน และภาษี ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญาของบริษัทฯ
• การค้นคว้า หรือการวิจัย
• เพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม หรือบุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทน หรือมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
• เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพในการดำเนินงาน การให้บริการ และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ
• เพื่อการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน
• เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ
• เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าถึง การป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ และเพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ของบริเวณอาคาร ภายในอาคาร และพื้นที่ของบริษัทฯ
• เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและ ในอนาคต
บริษัทอาจใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของเราที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด
บริษัทอาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาดหรือให้บุคคลภายนอกที่บริษัทมีข้อตกลงด้วยดำเนินการ ในกรณีดังต่อไปนี้
• ในกรณีที่บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) กับท่าน บริษัทจะดำเนินการได้เฉพาะกรณีที่ท่านให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง และบริษัทได้มีการแจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลท่านเพื่อการทำการตลาดแบบตรงนั้นกับท่านแล้ว ทั้งนี้ ท่านสามารถยกเลิกการให้ความยินยอมกับบริษัทในเรื่องการทำการตลาดแบบตรงได้ตลอดเวลาโดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของบริษัท
• ในการทำการตลาดแบบตรงกับท่าน บริษัทใช้ข้อมูลของท่านในการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของท่าน
• ในกรณีการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัท เช่น กิจกรรมการเล่นเกม หรือกิจกรรมในช่องทาง Social Network ต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของบริษัทให้บุคคลทั่วไปทราบ บริษัทจะไม่นำข้อมูลของท่านไปประมวลผลเพื่อทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ยกเว้นท่านจะให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลไปทำการตลาดแบบตรงได้ โดยบริษัทจะแจ้งท่านถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลท่านเพื่อการทำการตลาดแบบตรง และท่านสามารถยกเลิกการให้ความยินยอมกับบริษัทในเรื่องการทำการตลาดแบบตรงได้ตลอดเวลาโดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของบริษัท
6. การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 บริษัทไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงาน/บุคคลภายนอก ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็น ที่ต้องเปิดเผยให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินงาน หรือเป็นหน่วยงานมีหน้าที่ตามกฎหมายในการร้องขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูล หน่วยงาน/บุคคลภายนอกเหล่านี้ได้แก่
• บริษัทในเครือ
• แพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์
• บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการตลาด
• หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• หน่วยงานที่บริษัทจ้างให้เก็บข้อมูล
6.2 บริษัทกำหนดให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือมีคำสั่งให้บุคคลภายนอกนั้นดำเนินการ บุคคลภายนอกจะไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้
6.3 เมื่อถูกร้องขอ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกาย เพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย การตั้งข้อหา การใช้สิทธิ์ปกป้องสิทธิทางกฎหมาย และการป้องกันกรณีฉ้อโกง เป็นต้น
7. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระบบงานสารสนเทศของบริษัท และจัดให้มีการรักษาความปลอดภัย ที่มีมาตรฐานเพื่อให้ระบบงานสารสนเทศของบริษัท และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความปลอดภัย โดยมีมาตรการดังนี้
• จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่หรือพนักงาน
• จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
• จัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อความปลอดภัยเมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลของบริษัทอีกต่อไป
• มีกระบวนการจัดการกับกรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีที่ต้องสงสัยและต้องแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
7.2 ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลา 10 ปี ภายหลังจากที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัท แล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของบริษัทในการดำเนินข้อพิพาททางสัญญาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นในระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่มีเหตุผลทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่า 10 ปีได้ หากบริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลของท่านแล้ว บริษัทจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ (เพื่อที่ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีความเชื่อมโยงถึงท่านอีกต่อไป)
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) ในการเก็บข้อมูลเมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์ บริษัท จะเก็บไว้ไม่เกิน 13 เดือน หรือตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
8. นโยบายเรื่องคุกกี้ (Cookies)
8.1 Cookies เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies):
บริษัทใช้ Cookies เพื่อพัฒนาการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies) ในการจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านเพื่อช่วยให้บริษัท สามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น Cookies ประเภทนี้ช่วยให้บริษัทจดจำอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้บริษัทสามารถจัดทำเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มสะดวกสบายและ เป็นประโยชน์ต่อท่านมากขึ้น ในการปิดใช้งาน Cookies นี้ ท่านสามารถตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณโดยดูวิธีการช่วยเหลือของเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน
8.2 Cookies เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic cookies):
บริษัทใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดยบุคคลภายนอกเพื่อเก็บข้อมูลว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทมีการใช้งานอย่างไร บริษัททำข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นข้อมูลนิรนามทั้งหมด (Anonymization) และส่งผ่านไปที่บุคคลภายนอกผู้ที่จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้หรือเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ให้กับบุคคลอื่นที่ประมวลผลข้อมูลให้ตามที่กฎหมายอนุญาต บุคคลภายนอกจะไม่รวมข้อมูลของท่านที่ได้ไปจากเว็บไซต์เรากับข้อมูลที่บุคคลภายนอกมีอยู่แล้ว ท่านสามารถเลือกปิดการใช้งาน Cookies ลักษณะนี้บนหน้าเว็บไซต์บริษัท
9. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัท และการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เท่านั้นหากท่านได้กด link ไปยังเว็บไซต์อื่น (แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นๆ แยกต่างหากจากของบริษัท
10. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทจะตรวจสอบประสิทธิภาพของนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำ ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวจะถูกประกาศหรือตีพิมพ์ไว้บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอื่นของบริษัท
11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้
1. ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw Consent) ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2. ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Right of Access) และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน
3. ท่านมีสิทธิให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ (Right to Rectification)
4. ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ (Right to Erasure)
5. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Restriction of Processing)
6. ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Data Portability)
7. ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Object)
8. ท่านมีสิทธิเรียกร้องให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีที่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลก่อให้เกิดความเสียหาย
ในการใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่อยู่ข้างล่างเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ และบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน บริษัทจะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านตามขอบเขตของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และในกรณีที่บริษัทปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทจะให้เหตุผลการปฏิเสธคำขอของท่านด้วย
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการพิสูจน์ตัวตนของท่าน และรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) โดยเป็นมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทอาจติดต่อท่านเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอของท่าน เพื่อที่บริษัทจะได้สามารถดำเนินการตอบกลับได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
บริษัทจะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี บริษัทอาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และจะแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ
12 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง โดยบริษัทจะตรวจสอบ และใช้มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยขององค์กรทั้งทางกายภาพ เชิงเทคนิค และเชิงบริหารที่ทันสมัยอยู่เสมอเมื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทได้วางนโยบาย และมาตรการควบคุมภายในเพื่อให้ท่านมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และถูกเข้าถึงโดยบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท โดยพนักงานของบริษัทนั้น ได้รับการอบรม และฝึกฝนให้จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย หากพนักงานไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับการอบรมฝึกฝนดังกล่าว พนักงานจะได้รับโทษทางวินัย
13. ช่องทางการติดต่อกับบริษัท
บริษัท อาซาว่า จำกัด
ที่อยู่ : 1, 1/1, 1/2 ซอยสุขุมวิท 45 (สุขเสมอ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
อีเมล : [email protected]
หมายเลขโทรศัพท์ : 026626526
รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
ที่อยู่ : 1, 1/1, 1/2 ซอยสุขุมวิท 45 (สุขเสมอ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
อีเมล : [email protected]